ห้ามพลาด ! กับแหล่งท่องเที่ยวในกระบี่

:: กระบี่ ::
หอยเก่า เขาตระหง่าน ธารสวย รวยเกาะ เพาะปลูกปาล์ม
งามหาดทราย ใต้ทะเลสวย
มรกตอันดามัน

     กระบี่ เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลอันดามัน มีหลักฐานทางโบราณคดีทำให้เรารู้ว่าที่นี่เคยเป็น แหล่งชุมชนที่เก่าแก่มากแห่งหนึ่งของไทย ตั้งแต่สมัยก่อนมาจนถึงปัจจุบัน สภาพพื้นที่โดยทั่วไปเป็น เทือกเขาทอดตัวยาวตามแนวเหนือใต้ และเป็นภูเขาสูงต่ำสลับกับพื้นที่แบบลูกคลื่น มาจนถึงที่ราบป่าชาย เลนมีชายฝั่ง ทะเลยาวประมาณ 160 กม. และเกาะน้อยใหญ่กว่า 130 เกาะ

>>>>>10 แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ของจังหวัดกระบี่
 
     1. อ่าวนาง  เป็นชายหาดยาว มีถนนเลียบชายทะเลระยะทาง 6 กม. นักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่นิยมหาที่พัก บริเวณอ่าวนาง เนื่องจากมีรีสอร์ทที่พักให้เลือกหลายระดับราคา มีร้านค้าขายอาหารการกิน ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายของที่ระลึกมากมาย ทัศนียภาพสวยงามแปลกตาแวดล้อมด้วยภูเขาหินปูนตระหง่าน เวลาตอนเย็น นักท่องเที่ยวมักมาเดินเล่นริมหาดชมพระอาทิตย์ยามอัสดง บริเวณอ่าวนางมีเกาะใหญ่น้อยรวมกันกว่า
83 เกาะ บางเกาะมีรูปร่างประหลาดคล้ายรองเท้าบู๊ท เรือสำเภา หัวนก เกาะที่มีหาดทรายสวยงามและคน นิยมไปเที่ยวเล่นน้ำชมปะการังได้แก่ เกาะปอดะ เกาะหม้อ และเกาะทัพ
     2. หมู่เกาะปอดะและทะเลแหวก  อยู่ทางทิศใต้ของอ่าวนาง ห่างจากฝั่งประมาณ 8 กม. นั่งเรือออกไป ไม่ไกลเป็นเกาะที่มีหาดทรายขาวน้ำทะเลใส บริเวณชายฝั่งของเกาะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแนวปะการังหลาก หลายชนิดรวมทั้งฝูงปลาน้อยใหญ่ ให้นักท่องเที่ยวได้ว่ายน้ำเล่นกับฝูงปลากันอย่างสนุกสนาน ที่นี่ถือว่า เป็นจุดดำน้ำตื้นที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวได้เกือบตลอดทั้งปี เนื่องจากไม่ได้รับผลกระทบจากลมมรสุมมากนัก ใกล้ ๆ กับเกาะปอดะเป็นที่ตั้งของเกาะไก่ เกาะทัพ  เกาะหม้อ ซึ่งมีสันทรายเชื่อมต่อกันสวยงามมองเห็น ได้อย่างชัดเจนเวลาที่น้ำลง ที่เราเรียกกันว่า ทะเลแหวก และได้รับการคัดเลือกให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen in Thailand อีกด้วย

     3. หมู่เกาะพีพี  เป็นหมู่เกาะกลางทะเล อยู่ห่างจากอำเภอเมือง 42 กม. เดิมชาวทะเลเรียกหมู่เกาะนี้ว่า “ปูเลาปิอาปิ” คำว่า “ปูเลา” แปลว่าเกาะ คำว่า “ปิอาปิ” แปลว่าต้นไม้ทะเลชนิดหนึ่งจำพวกแสมและโกงกาง ต่อมาเรียกว่า “ต้นปีปี” ซึ่งภายหลังกลายเสียงเป็น “พีพี” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นอาณาจักร แห่งบุปผาใต้สมุทรนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวหมู่เกาะนี้ส่วนใหญ่มาเพื่อดำน้ำดูปะการังดอกไม้ทะเล และปลาหลากสีสันที่สวยงาม นอกจากนั้นยังมีเกาะต่าง ๆ ที่อยู่ระหว่างเส้นทางเดินเรือ กระบี่-ภูเก็ต-หมู่เกาะพีพี ประกอบด้วยเกาะ 6 เกาะ คือ เกาะพีพีเล เกาะพีพีดอน เกาะยูง เกาะไม้ไผ่ เกาะบิดะนอก และเกาะบิดะใน ซึ่งแต่ละเกาะมีหาดทรายสวย น้ำทะเลใส แต่ที่เป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ ได้แก่
   เกาะยูง ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะพีพีดอน มีชายหาดเป็นหาดหินอยู่ทางด้านทิศตะวันออก และมีหาดทรายเล็กน้อยตามหลืบเขา นอกจากนี้ยังมีแนว ปะการังสวยงามชนิดต่าง ๆ
   เกาะไม้ไผตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะพีพีดอน ไม่ไกลจากเกาะยูงเท่าใดนัก ด้านทิศเหนือและทิศตะวันออกมีหาดทรายสวยงาม และแนวปะการัง ซึ่งส่วนมากเป็นแนวปะการังเขากวางทอดยาวไปถึงทางทิศใต้ของเกาะและมีหาดทรายเม็ดละเอียดขาวเนียนทอดยาว นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมักนิยมมา พักผ่อน อาบแดดกัน  

   เกาะพีพีเล   มีพื้นที่เพียง 6.6 ตารางกิโลเมตร เป็นเกาะที่เต็มไปด้วยภูเขาหินปูน มีหน้าผาสูงชันตั้งฉากกับ ผิวทะเลโดยรอบเกือบทั้งเกาะ มีพื้นน้ำลึก เฉลี่ยประมาณ 20 เมตร มีบริเวณน้ำลึกที่สุดประมาณ 34 เมตร อยู่ทางตอนใต้ของเกาะ เกาะแห่งนี้มีเวิ้งอ่าวสวยงาม อาทิ อ่าวปิเละ อ่าวมาหยา อ่าวโละซามะ นอกจากนี้ ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือยังมีถ้ำไวกิ้ง เมื่อปี พ.ศ. 2515 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จประพาสถ้ำแห่งนี้และทรง พระราชทานนามใหม่ว่า “ถ้ำพญานาค” ตามรูปร่างหินก้อนหนึ่งที่คล้าย เศียรพญานาค อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านที่มาเก็บรังนกนางแอ่น บนเกาะแห่งนี้ภายในถ้ำทางทิศ ตะวันออกและทิศใต้พบภาพเขียนสีสมัยประวัติศาสตร์ เป็นรูปช้างและรูปเรือชนิดต่างๆ เช่น เรือใบยุโรป เรือใบอาหรับ เรือสำเภา เรือกำปั่น เรือใบใช้กังหัน และเรือกลไฟ เป็นต้น สันนิษฐานว่าภาพเขียนเหล่านี้ เป็นฝีมือของนักเดินเรือหรือพวกโจรสลัด เพราะจากการศึกษา เส้นทางเดินเรือจากฝั่งตะวันตกไปยังฝั่ง ตะวันออกบริเวณ นี้อาจเป็นจุดที่เรือสามารถแวะพักหลบลมมรสุมขนถ่ายสินค้า
     4. หมู่เกาะห้อง  อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ห่างจากตัวเมืองกระบี่ 46 กม. ประกอบด้วยเกาะ น้อยใหญ่มากมาย เช่น เกาะเหลาหรือเกาะซากา เกาะเหลาเหรียม เกาะปากกะ เกาะเหลาลาดิง เป็นต้น โดยมีเกาะห้องเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดอยู่ทางตอนใต้ของหมู่เกาะ ลักษณะโดยทั่วไปเป็นเขาหินปูน น้ำทะเลใส หาดทรายขาว มีแนวปะการังทั้งน้ำตื้นและน้ำลึกเหมาะแก่การดำน้ำ ตกปลา บนเกาะยังมีเส้นทางเดินสำหรับ ศึกษาธรรมชาติ เป็นระยะทาง 400 เมตร นอกจากกิจกรรมดำน้ำดูปะการังแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถ พายเรือคายัครอบ ๆ เกาะห้องได้

      5. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา  มีเนื้อที่ประมาณ 152 ตารางกิโลเมตร ในอำเภอเกาะลันตา ประกอบด้วยเกาะต่างๆ ที่สำคัญได้แก่
   เกาะลันตาใหญมีรูปร่างยาวเรียวจากเหนือมาใต้ ศูนย์กลางธุรกิจของเกาะอยู่ที่บริเวณท่าเรือศาลาด่านซึ่งมีทั้งบริการท่องเที่ยว ร้านอาหาร ธนาคาร ด้านตะวันตกเรียงรายไปด้วยชายหาดและอ่าวที่สวยงามมากมายได้แก่ หาดคอกวาง หาดโละบารา อ่าวพระแอะ หาดคลองโขง หาดคลองนินและมีถนน ตัดจากท่าเรือตอนเหนือผ่านชายหาดต่าง ๆ ไปจนถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาซึ่งอยู่ตอนใต้สุดของเกาะ พื้นที่ส่วนใหญ่บนเกาะมีสภาพเป็น ทิวเขาสลับซับซ้อน ปกคลุมด้วยป่าที่สมบูรณ์ ส่วนด้านตะวันออกมีชุมชนเก่าของเกาะลันตา เนื่องจากเคยเป็นที่ตั้งของที่ว่าการอำเภอมาก่อน ซึ่งย้ายไป อยู่ที่เกาะลันตาน้อย ชาวบ้านส่วนใหญ่บนเกาะลันตานับถือศาสนาอิสลาม และที่บ้านสังกะอู้ยังมีชนพื้นเมืองที่ยังคงยึดถือวัฒนธรรมประเพณี ได้แก่ ประเพณีลอยเรือ ไม่ไกลจากที่ทำการอุทยานฯ มีจุดชมวิวแหลมโตนด ซึ่งเป็นที่ตั้งของประภาคาร จากมุมนี้สามารถมอง เห็นโค้งอ่าวกรวดและอ่าวหาด ทรายขาวสะอาดมาบรรจบกัน ตอนปลายสุดของแหลมเป็นที่ตั้งของเกาะหม้อ เป็นจุดดำดูปะการังน้ำลึก
   เกาะลันตาน้อย เป็นเกาะที่เป็นชุมชนของชาวเกาะลันตาในอดีตมาก่อน มีที่ว่าการอำเภอ มีโรงเรียนวิถีชีวิตแบบเก่า ๆ บ้านเรือนโบราณยังมีให้พบเห็น
   เกาะตะเล็งเบ็ง อยู่ระหว่างท่าเรือคลองม่วง-เกาะลันตา เป็นเกาะที่มีลักษณะเป็นหินปูน มีชายหาดเล็กๆ และโพรงถ้ำ ซึ่งจะสามารถมองเห็นได้เฉพาะเวลา น้ำลง มีนกนางแอ่นจำนวนมากอาศัยอยู่บนเกาะ ส่วนกิจกกรรมยอดนิยมของเกาะนี้คือ การพายเรือคายัคชมธรรมชาติ
   เกาะรอกใน เป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์ย่อยของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา เป็นเกาะที่มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชัน ด้านทิศตะวันออกมีหาดทรายที่ ละเอียดขาวเนียน น้ำทะเลใสราวกับกระจกจนมองเห็นปลาหลากสีสัน และแนวปะการังเป็นกลุ่ม ๆ ตามโขดหิน ด้านทิศเหนือของเกาะมีแหลมธงและอ่าว ศาลเจ้า บนเกาะยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเพื่อดูพันธุ์ไม้ต่าง ๆ ได้อีกด้วย
   เกาะรอกนอก มีหาดทรายขาวละเอียดอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้และทางใต้ของเกาะ ทั้งเกาะรอกนอกและเกาะรอกใน เป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังและ ฝูงปลาที่ติดตาตรึงใจนักท่องเที่ยวไม่รู้ลืม ดังนั้นใครที่มีโอกาสมาเที่ยวเกาะลันตา อย่าพลาดจุดดำน้ำอันแสนประทับใจที่เกาะรอก

     6. น้ำตกร้อนคลองท่อม ( Unseen in Thailand )  ตั้งอยู่บริเวณบ้านบางคราม-บ้านบางเตียว ห่างจากอำเภอเมืองกระบี่ตามถนนเพชรเกษม (กระบี่-ตรัง) ประมาณ 45 กม. เป็นน้ำพุร้อนธรรมชาติ แห่งหนึ่งในบรรดาน้ำพุร้อนอีกหลายแห่งที่กระจัดกระจายอยู่บริเวณนี้ มีอุณหภูมิประมาณ 40-50 องศา เซลเซียส เป็นน้ำร้อนที่ซึมขึ้นมาจากผิวดิน ซึ่งมีป่าละเมาะปกคลุมร่มรื่น สายน้ำไหลไปรวมกันตามความ ลาดเอียงของพื้นที่ บางช่วงมีควันกรุ่น และคราบหินปูนธรรมชาติพอกอยู่เป็นชั้นหนา ทำให้เกิดทัศนียภาพ สวยงามแปลกตา เฉพาะบริเวณที่ธารน้ำร้อนไหลลงสู่คลองท่อมลดระดับเกิดเป็นลักษณะคล้ายชั้นน้ำตก เล็ก ๆ น้ำไม่ร้อนจัดมากสามารถลงเล่นน้ำหรือแช่ตัวได้ ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและความเมื่อยล้า
     7. สระมรกต  ใช้เส้นทางเดียวกับน้ำตกร้อนคลองท่อม ตามทางหลวงหมายเลข 4038 ก่อนถึงตลาด คลองท่อมจะมีทางแยกไปหมู่บ้านบางเตียว ระยะทาง 17 กม. ภายในมีสะพานไม้ให้เดิน เป็นเส้นทางเดิน ธรรมชาติ ผ่านป่าดิบชื้นเป็นระยะทาง 800 เมตร สระมรกต เป็นสระน้ำที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ น้ำในสระมีสี เขียวราวมรกต สามารถลงเล่นน้ำได้ ท่ามกลางป่าดิบชื้นแน่นขนัด และเป็นที่อยู่ของนกนานาชนิด
เช่น นกแต้วแร้วท้องดำ นกเงือกดำ เป็นต้น

     8. ท่าปอมคลองสองน้ำ ( Unseen in Thailand )  จากกระบี่้ใช้เส้นทางถนนป่าพรุ-ท่าปอม สู่บ้านหนองจิก ระยะทางประมาณ 28 กม. เป็นธารน้ำที่มีความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ เนื่องจากลำคลองน้ำมีทั้งช่วงที่ น้ำจืดสนิทและช่วงที่มีน้ำกร่อย เมื่อยามน้ำทะเลลดน้ำในคลองจืดสนิท ยามน้ำทะเลหนุนขึ้นก็เปลี่ยนเป็น คลองน้ำเค็ม ภายใต้ลำธารที่ใสสะอาดราวกระจก อุดมไปด้วยหญ้าทะเลเขียวสดงอกงาม รวมทั้งฝูงปลา ตัวเล็กตัวน้อย ป่าท่าปอมนับเป็นป่าดึกดำบรรพ์ที่มีแหล่งน้ำสวยงาม อีกทั้งมีความสำคัญในแง่เป็นแหล่ง ศึกษาเชิงนิเวศวิทยาด้วยโดยใช้เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ผ่านป่าพรุน้ำจืด ต้นชมพู่น้ำ โกงกาง และผักพื้นบ้านนานาชนิดตลอดแนวลำคลอง ซึ่งมีความยาวประมาณ 700 เมตร

     9. พายคายัค อ่าวท่าเลน  นอกจากกิจกรรมดำน้ำดูปะการัง หรือกิจกรรมเดินป่าศึกษาธรรมชาติแล้ว การพายคายัคก็น่าสนใจไม่น้อย เนื่องจากจังหวัดกระบี่สมบูรณ์พรั่งพร้อม ไปด้วยธรรมชาติป่าชายเลน ระหว่างการพายคายัค นักท่องเที่ยวก็จะเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์โดยรอบที่แวดล้อมไปด้วยถ้ำ โตรกผา เขาหินปูน ป่าโกงกาง แมลง และสัตว์ต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ในบริเวณป่า ดังนั้นในแต่ละปีการพายคายัค จึงกิจกรรมที่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวได้ไม่น้อยเลย และที่สำคัญสามารถพายคายัคกันได้ตลอด ทั้งปี สถานที่ที่นิยมพายคายัคมีหลายแห่งด้วยกัน อาทิ อ่าวท่าเลน เกาะห้อง บ่อท่อ อ่าวตะละเบ็ง เป็นต้น

     10. ตัวเมืองกระบี่ เป็นเมืองที่มีภูมิทัศน์เมืองสวยงาม มีเขาขนาบน้ำที่เป็นจุดเด่นของเมืองคู่กับ ป่าชายเลนที่สมบูรณ์ เขียวชอุ่ม ทำให้บรรยากาศดูร่มรื่นสบายตา นักท่องเที่ยวสามารถพายเรือแคนู เพื่อเป็นการพักผ่อนและออกกำลังกาย หรือในช่วงเย็นแดดร่ม อากาศสบาย ๆ สามารถเดินเล่นรับลมพร้อม กับนั่งรับประทานอาหารเย็นได้ที่ตลาดโต้รุ่ง บริเวณท่าเรือเจ้าฟ้า และบริเวณตลาด ถนนมหาราช ก็มีอาหารพื้นเมืองให้รับประทาน ทั้งขนมจีนน้ำยา น้ำพริก แกงไตปลา ไก่ทอดพื้นเมืองรสชาติกลมกล่อม และสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวตามหาดหรือเกาะต่างๆ เช่น หาดไร่เล อ่าวนาง เกาะลันตา เกาะพีพี เกาะจำ และเกาะสีบอยา สามารถลงเรือโดยสารหรือติดต่อเช่าเรือได้ที่ท่าเรือเจ้าฟ้า ในอำเภอเมือง

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม :
ศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่

Back to TOP

 

Offshore Jones Act
Copyright@2005 ** Gable Service Co.,Ltd. 50/300 Moo.4 Samwatawantok Klongsamwa Bangkok , 10510
Run Best At Display Screen Resolution 1024 x 768 Pixel